รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
ในสมัยก่อน ผู้คนกล่าวว่าบุคคลจะต้อง ชำระล้างตนเองให้บริสุทธิ์ก่อน โดยปฏิบัติตามหลักธรรมทั้งหมด ตัวเขาเอง แล้วเขาสามารถ ดูแลครอบครัวของเขาอย่างถูกต้อง และแล้ว ถ้าเขาต้องการ เขาสามารถ เข้าไปในระบบรัฐบาล แล้วจัดการประเทศของเขา แล้วเขาสามารถ ทำให้โลกบริสุทธิ์ได้ด้วย ถ้าทุกประเทศ มีรัฐบาล ที่บริสุทธิ์ สะอาด และตรงไปตรงมา ทำงานให้กับผู้คนอย่างแท้จริง คนที่จ่ายเงินให้พวกเขา คนที่จ่ายรัฐบาล ผ่านภาษีของพวกเขา ถ้ารัฐบาลของทุกประเทศ มือสะอาดและบริสุทธิ์ งั้นก็แน่นอน แต่ละประเทศจะช่วยให้มี สันติภาพในโลกนี้ฉะนั้น การแค่พูดว่า ตนบริสุทธิ์และสะอาด และรังแกพลเมืองผู้ยากจน จะไม่ทำให้ประเทศของคุณ หรือสหภาพของคุณ หรือกลุ่ม ประเทศของคุณดีขึ้น เพราะตัวคุณเองก็ไม่ใช่ ตัวอย่างที่ดี โดดเด่น กฎหมายเพียงทำให้ ผู้คนรู้สึกขยะแขยง ต่อรัฐบาล หากรัฐบาลเองไม่ปฏิบัติ ตามกฎหมายเหล่านั้น ฉันแค่ยกตัวอย่าง แม้กระทั่งหลายประเทศก็มีกฎหมาย เพื่อคุ้มครอง (ชาว) สัตว์ด้วย พวกเขาบอกว่า "ไม่สามารถ รังแก (ชาว) สัตว์ได้ ไม่สามารถทารุณกรรม (ชาว) สัตว์ ไม่ว่าประเภทใด ไม่สามารถทำให้ (ชาว) สัตว์ไม่สบายได้” และอื่น ๆ แต่พวกเขายังคงอนุญาต ให้โรงฆ่าสัตว์ฆ่า ทำร้าย และสังหาร (ชาว) สัตว์ได้ และคอยคุกคามพวกเขาทุกวัน ตลอดเวลาที่อยู่ในกรง พวกเขาออก กฎหมายพวกนี้ขึ้นมาเพื่ออะไร? ไม่มีใครปฏิบัติตามเลย แค่เพื่อสิ้นเปลืองเงิน ให้ผู้พิพากษา และนักกฎหมายบางคนขึ้นเป็น ผู้พิพากษาที่ดูดีและมีอำนาจ และ...โอ้พระเจ้า ฉันไม่อยากจะคิดเรื่องนั้นเลยมันทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายจริง ๆ นั่นจะทำให้ฉันรู้สึก หงุดหงิดและผิดหวังมาก แน่นอนว่าฉันกำลังเสี่ยงต่อ ความปลอดภัยของฉันด้วยการพูดแบบนี้ แต่คุณก็ไม่สามารถ ไม่พูดถึงเรื่องนี้ได้ เพราะว่ารัฐบาลแค่คุกคาม ประชาชน ตำหนิประชาชน แต่กลับไม่พิจารณา ว่าประชาชนดำเนินชีวิตอย่างไร หรือต้องเผชิญ กับความยากลำบากอย่างไร และบางครั้งพวกเขาไม่สามารถ หางานได้ด้วยซ้ำ ดังนั้น พวกเขาจึงต้องไปขโมยและปล้น และทำสิ่งเช่นนั้นและถ้าหากผู้คนมีภาวะซึมเศร้ามาก พวกเขาไม่สนใจรัฐบาล หรือประเทศของตน หรือในชีวิตของตนเองมากนัก พวกเขาก็จะถูกหลอก ให้เสพยาเสพติด ดื่มสุรา และอื่น ๆ จนทำให้ตนเองเจ็บป่วย แล้วเงินภาษีนั้น ก็ต้องเอาไปให้โรงพยาบาล รักษาพวกเขา ถ้าคนนั้นสามารถรักษาได้ยิ่งไปกว่านั้นมันไม่ใช่ปัญหา ของรัฐบาลเพียงอย่างเดียว มันเป็นปัญหาทางศาสนาเพราะ ศาสนาพูดถึงแค่ทฤษฎีเท่านั้น แต่ผู้ตามกลับไม่นำทฤษฎี ไปปฏิบัติ ก็เหมือนกับว่าคุณแค่ อ่านหนังสือทางการแพทย์ไปเรื่อย ๆ แต่ไม่เคยปฏิบัติตามจริง ๆ ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไม่สามารถ เป็นหมอได้ ประสบการณ์สร้างผู้เชี่ยวชาญ นั่นคือสิ่งที่เราพูด แต่เราไม่ได้ทำมัน เราไม่ได้เรียนรู้อะไรมาก และชีวิตก็ยากลำบากมากทุกสิ่งทำให้มันยากมาก คุณต้องจ่ายภาษีมาก คุณต้องทำงานหนัก แต่คุณมีเงินน้อยมาก แค่พอกิน มีคนร้อยละ 99 ในโลก ที่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ หรือครึ่งหนึ่งอาจจะ ดีกว่าครึ่งล่างเล็กน้อย แต่ครึ่งล่าง ก็เยอะแล้ว ผู้คนมีชีวิตอยู่ในความยากจน ต้องกังวลมื้อต่อมื้อ บิลต่อบิล และการอาศัยอยู่ในโลกนี้ เพื่อเอาชีวิตรอด ดูเหมือนจะเป็น ความยากลำบากอันยิ่งใหญ่และรัฐบาลหลายแห่ง ไม่สนใจว่าผู้คนดำเนินชีวิตอย่างไร และถ้าหากพวกเขาไม่จ่ายภาษี พวกเขาก็แค่ลงโทษพวกเขา หรือพยายามทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้ทรัพย์สินของพวกเขามา แม้แต่ครอบครัวรวมถึงลูก ก็ต้อง ไปอยู่ข้างถนน ใช้ชีวิตในที่หนาวเย็น ในเต้นท์ หรืออะไรก็ตาม รัฐบาลไม่มากนัก ที่จะใส่ใจ แต่พวกเขากลับใช้เงินนั้น ไปฆ่าพลเมือง ของประเทศอื่นแทน และประเทศอื่นหลายประเทศ ก็ต้องเทเงินภาษี ไปช่วยเหลือประเทศเหยื่อ และเป็นเช่นนี้ต่อไป ตลอดกาล คุณไม่มีวันบอกได้เลยว่า มนุษย์เผ่าพันธุ์นี้บ้าขนาดไหนจริง ๆพระเจ้าทรงอวยพรเรามากมาย ด้วยสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ให้ชีวิตที่สะดวกสบาย มากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวัน ดีขึ้น ๆ เรื่อย ๆ แต่ไม่ บางรัฐบาล ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำที่จะเพลิดเพลิน กับสิ่งนั้นแล้ว พวกเขาใช้ชีวิตอย่างหรูหรา โดยไม่สนใจอะไร พวกเขาต้องเทเงินภาษีทั้งหมด ที่ประชาชนหามา ด้วยเลือดและน้ำตา เทใส่ลงไปในสงคราม เพื่อฆ่าคนที่น่าสงสารคนอื่น ๆ ที่พยายามเอาชีวิตรอด ด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตา ถ้าไม่ใช่บ้าและชั่วร้าย แล้วมันคืออะไร?มันไม่ใช่เพียงแค่นั้น มีผู้คนจำนวนไม่น้อย ที่ไม่มีอะไรดีกว่าที่จะทำ นอกจากบวชเป็นพระ และพูดแต่เรื่องไร้สาระ ไม่ใช่แค่เรื่องไร้สาระที่ไม่เป็นอันตราย แต่ยังทำให้ผู้คนหลงผิดอีกด้วย หลอกลวงคนอื่นเพียง เพื่อให้มีรายได้มากมาย และมีชีวิตหรูหรา อาศัยอยู่ในบ้าน ที่มีมูลค่าหลายล้านเหรียญ มีเครื่องบินส่วนตัว และสิ่งของต่าง ๆ มากมาย เพื่อให้ได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการ เพียงแค่ขายคัมภีร์ไบเบิ้ล หรือขายพระสูตร ถ้าพวกเขาทำแบบนั้นจริง ๆ พวกเขายังนำผู้คนไปผิดทาง โดยการตีความพระสูตรผิด ๆ และแม้แต่การใส่ร้าย อาจารย์ดั้งเดิมของตนเอง เช่น พระเยซูเจ้า การล้อเลียนพระเจ้า และทั้งหมดนั่น และการล้อเลียนพระพุทธเจ้า ราวกับว่าพระพุทธเจ้ากำลังโกหก เกี่ยวกับดินแดนบริสุทธิ์ของพระอมิตาภ หรือพระพุทธเจ้ากำลังโกหก เกี่ยวกับนรก ใช่ พระเหล่านั้น บาทหลวงเหล่านั้น พวกเขามาจากไหน? พวกเขาเรียนมาจากโรงเรียนไหน? ไม่มี พวกเขาต้องมาจากนรกแน่ ๆ แน่นอนว่าคุณเห็นได้ว่าพวกเขา ทำงานให้กับมายาไม่กี่วันก่อน หลังเลิกงาน ฉันนั่ง พักผ่อนอยู่ที่นั่น เนื่องจากฉันทำงานหนักมาก ฉันทำงานหนักเกินไปสำหรับร่างกาย น้อย ๆ ของฉัน แต่ฉันไม่ว่าอะไร แค่ฉันนั่งคิดว่า "น่าสงสารจัง" ฉันเป็นห่วงมากเกี่ยวกับผู้คน ที่ถูกหลอกลวงหรือจะถูกหลอกลวง โดยคนงานมายาปลอม เช่นโป๊ป บาทหลวง ล่วงละเมิดเด็ก และเช่น เจิ่มตัม หรือรูมาจี ที่ล่วงละเมิดเด็ก และเช่นเดียวกับ พระบางรูปที่ทำให้คนเข้าใจผิด ว่าพระพุทธเจ้าไม่มีอยู่จริง หรือพระศากยมุนีพุทธเจ้า ทรงกล่าวเท็จเกี่ยวกับ ดิยแดนบริสุทธิ์ เกี่ยวกับพระกฤติครรภ์โพธิสัตว์ ฯลฯ ฉันกังวลมากเลย ฉันรู้สึกเสียใจมาก ฉันจึงถามพระเจ้าว่า “ได้โปรดเถิด มีอะไรที่เราช่วยได้บ้าง? ไม่เช่นนั้นคนล้มเป็นจำนวนมาก”แล้วพระเจ้าบอกฉันว่า "อย่ากังวลเรื่องผู้คน" ฉันบอกว่า “โอเค มันมีมากเกินไป ฉันอดกังวลไม่ได้ แต่เช่นเกี่ยวกับรูมา เขาใช้ ชื่อฉันเพื่อหลอกลวงผู้อื่น และเขามาจากนรก และแล้ว เขาจะพาคนไปนรก ฉันรู้สึกเสียใจมาก และพวกเขาทั้งหมด จะถูกมายาหลอกในชาตินี้ โดยปีศาจ” พระเจ้าจึงตรัสว่า “อย่ากังวลเรื่องพวกเขา” ฉันรู้สึกประหลาดใจ ฉันถามว่า “แต่ทำไมไม่ต้องกังวล?” พระองค์จึงตรัสว่า ผู้ที่ ติดตามครูปลอมเช่น เจิ่มตัม หรือชื่อของเขาคือ รูมา เป็นผู้มาจากมายาอยู่แล้ว โอ้ ฉันแปลกใจ ฉันบอกว่า "โอเค บางทีนก ที่มีขนเดียวกัน รวมฝูงกัน" แต่แล้วคนที่เรียกว่าลูกศิษย์ของ พระเจ้าบางคนของฉันล่ะ อย่างน้อยพวกเขาหลายคน ก็ยังคงติดตามเขา หรือเชื่อในเขาอยู่?” ท่านพูดว่า “โอ้ พวกนี้เป็น พวกเชื่อในมายาอย่างลับ ๆ พวกเขาตามมายาอยู่แล้ว”โอ้ นี่เป็นครั้งแรกที่พระเจ้า ทรงบอกให้ฉันรู้เรื่องนี้ ฉันไม่เคยคิด แบบนั้นมาก่อน ฉันรู้สึกสงสารคนอื่น อยู่เสมอและเป็นกังวล ว่าพวกเขาไปหลงเชื่อใคร พวกเขาจะทำร้ายจิตวิญญาณ ของตนเอง และพวกเขา จะต้องตกนรกเพราะเดินทางผิด เดินผิดทาง วันนั้นพระเจ้าทรงให้ฉันเห็น ว่าความจริงก็เป็นอย่างนั้น ตอนนี้ฉันก็หยุดกังวลแล้ว ฉันขอบคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งนั้น และหากพวกคุณคนใดกังวล คุณก็ไม่ต้องกังวลแล้ว อะไรก็ตาม แต่ฉันยังไม่รู้สึกสงบ บางทีฉันบังเอิญเห็นโฆษณา ของรูมาในยูทูบ ยกตัวอย่าง ฉันแค่รู้สึกว่าฉันอยากเป็น... ฉันรู้สึกแย่จัง เฮ้อ... โอ้ พระเจ้า อย่าให้ฉันพูดถึงมันเลยดีกว่า ฉันรู้สึกแย่มากขยะน่าเกลียดอย่างนั้น สามารถดำรงชีวิตอยู่ด้วยการพึ่งพา คนอื่นและทำให้ตัวเองดูสำคัญได้ โอ้ พระเจ้า เราไม่ควรพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ดีกว่า แต่ฉันรู้สึกดีขึ้นหลังจากที่ พระเจ้าบอกฉันว่าคนที่เชื่อในตัวเขา หรือทำงานให้กับเขา หรือทำงานร่วมกับเขา หรือ ช่วยเหลือเขาในทางใดก็ตาม พวกเขาเป็นผู้เชื่อในมายาอย่างลับ ๆ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นที่เรียกว่าลูกศิษย์ ของพระเจ้าของฉันและ ได้รับการประทับจิตจากฉันก็ตาม มันสมเหตุสมผลเพราะ บางคนเข้ามาเพียง เพื่อสอดส่องกลุ่มของฉันด้วย ที่ฉันค้นพบก็ มีอยู่ไม่น้อย และบางคนเข้ามาเพียง เพราะเหตุผลอื่น ไม่ใช่เหตุผลอันสูงส่ง เช่น ไม่ต้องการรู้จักพระเจ้า หรืออะไร มีหลายอย่างเกินไปและมันไม่... มันน่าเกลียดเกินไปสำหรับฉัน ที่จะพูดถึงเรื่องทั้งหมดนั้นPhoto Caption: เส้นทางที่คุ้นเคยคือหนทางกลับบ้าน