รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
เล่าจื้อ ผู้ที่ชื่อของท่านหมายความว่า “อาจารย์อาวุโส” เกิดในช่วง ยุคฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง ในศตวรรษที่หก ชีวิตเริ่มต้น ในรัฐจีนโบราณ แห่งจู ในช่วงราชวงศ์โจ นามเดิมของท่านคือ ลี่เอ้อ และภายหลังท่านเป็นที่รู้จัก ในฐานะนักประวัติศาสตร์และ นักโหราศาสตร์ เล่าแดนตามประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้ เล่าจื้อ ได้รับตำแหน่งที่สำคัญในฐานะ ภัณฑารักษ์แห่งหอสมุดหลวง ท่านเป็นที่ยกย่องใน ปัญญาและความรู้ อันลึกซึ้งของท่าน แม้แต่อาจารย์ขงจื้อผู้ยิ่งใหญ่ ครั้งหนึ่งเคยปรึกษาท่าน เกี่ยวกับแก่นของลี่ หรือพิธีกรรม และทึ่งในปัญญาของท่านเล่าจื้อ ที่มีอยู่มากล้น ดั่งมังกรที่สามารถทะยาน สู่ท้องฟ้า พร้อมกับลมและก้อนเมฆเล่าจื้อได้บำเพ็ญอย่างสมบูรณ์แบบ บนวิถีทางจิตวิญญาณ และแก่น ของปรัชญาของท่าน มีรากฐานมาจากความสันโดษ และความไม่มีตัวตน ตำนานเล่าว่า เมื่อท่านเล่าจื้อ กำลังจะออกจากประเทศ ผ่านประตูฮังกู ท่านพบกับผู้รักษาประตู ผู้รับรู้ถึงออร่าที่พิเศษ ของท่านเล่าจื้อ ก่อนที่จะให้ท่านอาจารย์ผ่านไป ผู้รักษาประตูยืนกรานให้ท่าน เขียนคำสอนบางส่วน เพื่อโลกนี้ ตำราเล่มนี้กลายเป็น เต้าเต๋อจิง ซึ่งได้กลายเป็นหนึ่ง คัมภีร์ทางปรัชญา และจิตวิญญาณที่สำคัญ ที่สุดของจีน ศาสนาเต๋า เกิดจากคำสอนของท่าน และท่านเล่าจื้อในภายหลัง ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้ก่อตั้ง ศาสนาเต๋า และพระเจ้า “ไต๋ ชาง เหล่า จุน” (พระเจ้าอาวุโสสูงสุด) จากตำนานของเต๋าท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ อธิบายเพิ่มเติม ถึงคำสอนของท่านเล่าจื้อ ในช่วงการบรรยายปี 2008 ที่ฝรั่งเศสเล่าจื้อกล่าวว่า “บุคคลเช่นนี้ จะรักษาความยอดเยี่ยม ของธรรมชาติของเขา ได้ตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง เขากลายเป็นเด็กอีกครั้ง อิสระจากข้อผิดพลาดทั้งหมด จากมลทินทั้งปวง นี่คือชาย หญิง ผู้ที่บรรลุเต๋า”ใช่ ผู้ที่รู้แจ้ง ดังนั้น ด้วยหนังสือเล่มนี้ ท่านเล่าจื้อต้องการบอก ลูกศิษย์ว่าให้ปฏิบัติอย่างไร ประพฤติตนอย่างไร แยกแยะ คนที่บรรลุเต๋าได้อย่างไร เขาจะดูเหมือนอย่างนี้ แข็งแรงมาก ทรงพลังมาก มีปัญญามาก แต่เรียบง่ายมาก อ่อนน้อม ถ่อมตนมาก ธรรมดามาก ท่านจึงแนะนำลูกศิษย์ของท่าน ให้ปฏิบัติหน้าที่ในชีวิต บนโลกนี้ก่อน ตราบใดที่พวกเขายังอยู่ที่นี่ ไม่ใช่แค่พลังทางกาย แต่พลังทางจิตวิญญาณด้วย คุณทราบ แต่ คุณไม่โอ้อวดเกี่ยวกับมัน เพราะมนุษย์ หลังจาก ที่เขาบรรลุการรู้แจ้ง สำหรับเขา มันง่ายเหมือนการหายใจ มันจะไม่รู้สึกเหมือน “โอ้ มันยิ่งใหญ่ ที่ฉันบรรลุเต๋า ฉันเป็นพุทธะแล้วตอนนี้ ไม่ เขาไม่ รู้สึกอย่างนั้น เธอจะไม่รู้สึกอย่างนั้น มันเรียบง่ายมาก และ เป็นธรรมชาติต่อพวกเขา แต่ผู้คนจะทราบ และพวกเขาทุกคนจะ จับกลุ่มกันไปหาเขา “ทุกสิ่งภายใต้ท้องฟ้า” ซึ่งหมายถึงทุกสรรพสิ่ง เพราะเขาเป็นหนึ่งเดียวกัน กับพวกเขาทั้งหมดแล้ว พวกเขาจึงรู้สึกว่าไม่มีระยะห่าง จากตัวตนเช่นนี้ ไม่ใช่แค่มนุษย์ แต่สัตว์ก็เช่นกัน นั่นคือเหตุที่ท่านกล่าวว่า “ทุกสิ่งภายใต้ท้องฟ้า” ท่านไม่ได้หมายถึงมนุษย์ จะจับกลุ่มกันไปหาเขาหรือเธอ ท่านกล่าวว่า “ทุกสิ่งภายใต้ท้องฟ้า” จะมายังชายคนนี้ เพราะเขาได้กลายเป็น เด็กอีกครั้ง เรียบง่าย อิสระ และบริสุทธิ์
